วิธีสร้างรายได้จากบล็อก

วิธีสร้างรายได้จากบล็อกมีหลายวิธี เช่น การสร้างบล็อกแล้วนำ adsense จากกูเกิ้ลมาติดแปะ หรือจะนำร้านค้าอะเมซอนมานำเสนอก็ย่อมได้  ส่วนวิธีการอีกวิธีหนึ่งที่คล้ายกับการนำร้านอะเมซอนมาติด ก็คือ การสร้างรายได้โดยติดป้ายโฆษณาจาก ComplexPlaza ซึ่งก็คล้าย ๆ กับการนำเสนอขายสินค้าของ Amazon นั่นแหละฮะ...
      วิธีการแบ่งปันผลประโยชน์ หรือแผนรายได้ดังนี้ครับ..
อัตราค่าตอบแทนจากยอดขายสินค้าของคุณ


สำหรับค่าตอบแทนต่อที่ 1 ซึ่งเป็นค่าตอบแทนจากยอดขายสินค้าของคุณนั้นระบบจะคำนวนให้มากถึง 10% - 20% โดยจะใช้อัตราค่าตอบแทนดังนี้
อัตราค่าตอบแทน เงื่อนไข

10% ในระยะแรกตัวแทนจำหน่ายทุกคน จะได้รับค่าตอบแทนในอัตรานี้

14% หากเฉลี่ยขายสินค้าได้โดยประมาณวันละ 1 Order ภายใน 1 เดือนจะปรับค่าตอบแทนให้เป็น 14%

16% หากเฉลี่ยขายสินค้าได้โดยประมาณวันละ 2 Order ภายใน 1 เดือนจะปรับค่าตอบแทนให้เป็น 16%

18% หากเฉลี่ยขายสินค้าได้โดยประมาณวันละ 3 Order ภายใน 1 เดือนจะปรับค่าตอบแทนให้เป็น 18%

20% หากเฉลี่ยขายสินค้าได้โดยประมาณวันละ 4 Order ภายใน 1 เดือนจะปรับค่าตอบแทนให้เป็น 20%

ทุกอัตราค่าตอบแทน ยังไม่รวมค่าตอบแทนจากยอดขายสินค้าของตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ (ย่อย) ที่คุณจะได้รับอีก 3%

ตัวแทนจำหน่ายออนไลน์สามารถเพิ่มยอดขายได้อย่างดีด้วยระบบหารายได้โดยการนำสินค้าไปขายตรงด้วยตนเอง หรือที่เรียกว่า "ระบบตัวแทนจำหน่ายออนไลน์มาซื้อให้เอง"

เนื่องจากสินค้าที่จำหน่ายในเว็บไซต์นั้นโดยปกติจะมีส่วนลดเฉลี่ย 15% จากราคาปกต่อสินค้า 1 ชิ้น นั่นหมายความว่า หากพูดกันในแง่ของธุรกิจการขายของแล้ว การเป็นตัวแทนจำหน่ายฯ กับเรา ถือว่าคุณได้ส่วนลดในการขายสินค้ามากถึง 25% - 35% (เมื่อนำส่วนลดจากราคาปก 15% มาคำนวนด้วย) โดยที่ไม่ต้องลงทุนใดๆ โดยเฉพาะท่านที่เลือกใช้ระบบที่ 2 ในการจำหน่ายสินค้าจะเข้าใจดี (ตารางแสดงอัตราค่าตอบหลักแทนที่คุณจะได้รับ)

•ดังนั้นค่าตอบแทนที่คุณจะได้รับจะมีมากถึง 2 ต่อ คือ


ต่อที่ 1 ได้ค่าตอบแทนจากยอดขายสินค้าของคุณ 10% - 20% (ตารางแสดงอัตราค่าตอบหลักแทนที่คุณจะได้รับ)

ต่อที่ 2 และได้ค่าตอบแทนจากยอดขายสินค้าของตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ (ย่อย) อีก 3% โดยที่สามารถมีเพิ่มมากขึ้นไปได้เรื่อยๆ ไม่จำกัด

โปรดสังเกต ค่าตอบแทนจะคำนวนจาก ยอดขายสินค้า ในทุกระดับ และมีอัตราที่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่จำกัด

•หากคุณเป็นเจ้าของหลายเว็ปไซต์ คุณสามารถสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ เพียง Account เดียว และใช้งานร่วมกันหลายๆ เว็บไซต์ได้ทันที เพื่อที่จะได้ร่วมกันสะสมค่าตอบแทนได้อย่างเต็มที่ โดยที่ไม่ต้องสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ใหม่

•ผู้ที่คลิกป้ายโฆษณาสินค้า มาจากเว็บไซต์ของคุณ จะถือว่าเป็นลูกค้าที่คุณแนะนำมาทันที

•ระบบจะมีการจดจำลูกค้าที่คุณแนะนำมาเป็นเวลา 365 วัน โดยใช้ระบบ Cookie นั่นหมายความว่า ภายใน 365 วัน หากลูกค้าที่คุณแนะนำมานี้ มีการซื้อสินค้าวันไหนก็ตาม และจะสั่งซื้อกี่ครั้งก็ตาม ระบบจะรู้ทันทีว่า ลูกค้าคนนี้เป็นลูกค้าที่คุณแนะนำมา และคุณก็จะได้รับค่าตอบแทนในทุกๆ ครั้ง ตลอดทั้ง 365 วัน ทันที ถึงแม้ว่าลูกค้าผู้นั้นจะได้ปิด Browser หรือปิดเครื่องไปแล้ว ข้อมูลก็ยังคงอยู่ ซึ่งระบบจะสามารถตรวจสอบได้ว่า รายการสั่งซื้อนี้ เป็นรายการสั่งซื้อจากลูกค้าของคุณ และหากใน 365 วันนี้ ลูกค้ามีการคลิกป้ายโฆษณาจากเว็บไซต์คุณเข้ามาใหม่ ระบบก็จะเริ่มย้อนกลับไปนับเป็นวันที่ 1 ใหม่ และเริ่มนับไปจนครบ 365 วันใหม่อีกครั้ง

•ในระยะเวลา 365 วัน นอกจากคุณจะมีโอกาสได้ Comission จากผู้ที่คลิกป้ายโฆษณาของคุณแล้ว หากผู้นั้นมีการสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ คุณก็จะได้สิทธิเป็นผู้แนะนำ และผู้นั้นจะกลายเป็น ตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ (ย่อย) ภายใต้การแนะนำของคุณทันที ทำให้คุณมีโอกาสได้รับผลตอบแทนเป็น 2 ชั้น ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

•ระบบยังมีส่วนที่ใช้แสดงสถานะผู้แนะนำ (Affiliate) อยู่ที่บริเวณด้านล่างของเว็บไซต์ ComplexPlaza.com ซึ่งจะคอยแสดงรหัสตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ของคุณ ในเครื่องของลูกค้าอยู่ตลอด 365 วัน ในระหว่างที่ลูกค้าที่คุณแนะนำมานี้ ใช้งานอยู่ในเว็บไซต์
แผนผังรายได้ครับ  ต่อที่ 1 และต่อที่ 2

ดีกว่าตรงเราได้เปอร์เซนต์จากยอดขายของลูกทีมนะครับ นอกจากจะขายเองแล้ว

ส่วนสนใจสมัครเปิดร้านออนไลน์ฟรี ๆ ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เลย ก็ตรงนี้เลยครับ...

http://www.plazacomplex.com/AffiliateRegister.asp?refid=6022

วิธีการสมัครบล็อกฟรี

วิธีการสมัครบล็อกฟรี
    มีผู้อ่านบล็อกของผมแล้ว ไม่ทราบวิธีการสมัครบล็อกฟรี บางคนสมัครแล้วไม่ผ่าน และอีกหลายเหตุผล ผมจะอธิบายเพิ่มเติม พร้อมภาพประกอบไปพร้อมกันเลยนะ
     ขั้นตอนที่ 1  เราต้องสมัครอีเมล์ของ gmail.com ก่อน (คือให้มีอีเมล์ของยี่ห้อ gmail ก่อนนั่นเอง เช่นของผม amphol007@gmail.com (ขั้นตอนสมัคร gmail.com ทุกคนคงสมัครผ่านนะ) ถ้าถามว่าจะใช้อีเมล์อื่นจะได้มั้ย ก็ได้เหมือนกัน แต่จะสู้ใช้ของ gmail.com เรียกว่าเป็นเครือเดียวกันว่างั้นเถอะ)

      ขั้นตอนที่ 2 เข้าไปที่ http://www.blogger.com/ เพื่อทำการสมัครขอใช้บริการบล็อกฟรี ครับ

จากนั้นกรอก E-mail พร้อม password ลงไป แล้วเลือก สร้างบล็อก ครับ

แล้วดูตัวอย่างการสร้างบล็อกจากบทแรกที่เขียนไว้ได้เลย..ง่ายมั้ย..

ส่งบทความถึงมือผู้อ่านด้วย Feed

    Feed คืออะไร ?
                 feed คือ การส่งข้อมูลบนบล็อกหรือเว็บไซต์ของเราที่มีการอัพเดตไปยังผู้อ่านที่สมัครรับ feed โดยตรง ช่วยให้ผู้อ่านได้อ่านบทความหรือติดตามข่าวคราวการอัพเดตบล็อกของเราได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องเข้าไปหน้าบล็อกของเรา ซึ่งถือว่า feed เป็นช่องทางสำหรับการโปรโมทบล็อกอีกวิธีหนึ่งนะครับ
                 เพราะฉะนั้นบล็อกจึงจำเป็นจะต้องเพิ่ม gadget ที่เรียกว่า feed ลงไปก่อน ดังตัวอย่างด้านล่างครับ

1. คลิกแท็บ layout > page elements แล้วคลิกคำสั่ง Add a Gadget จากนั้นคลิก + หลังรายการ feed (ดูรูป)

2. ปรากฎหน้าต่าง configure feed ขึ้นมา ให้เราเติม URL ของ feed ลงในช่อง feed URL แล้วคลิกดำเนินการต่อ..

3. ตั้งค่าออปชั่นให้ feed นี้เลย

สร้างลิงก์ของบล็อกอื่น ๆ ด้วย Link list

...เกริ่นก่อนโพสต์...วันนี้หลานสาวผมมาที่บ้าน สอบถามผมเกี่ยวกับเรื่องการทำเว็บไซต์ ผมกลับแนะนำให้เขาทำบล็อกจะดีกว่า ที่ว่าดีเพราะมันง่ายกว่า รวดเร็วกว่า เป็นกันเองกว่า นั่นเอง การนำเสนอต่าง ๆ ก็แสนง่าย และที่สำคัญ ๆ ก็คือ ฟรีเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แถมอีกอย่างยังสามารถนำมาสร้างรายได้จากการโฆษณา google Adsense หรืออื่น ๆ มากมายได้...แต่ผมก็ไม่มั่นใจว่าสิ่งที่กล่าวออกไปนั้น หลานผมเขาจะเข้าใจหรือไม่ ? ก็หวังเพียงว่า ถ้าเขาสงสัยอะไรก็ส่งอีเมล์สอบถามกันในภายหลังก็คงได้...เรายินดีให้คำแนะนำเสมอ ๆ...
    บทความต่อไปผมจะนำเสนอ หัวข้อ "การสร้างลิงก์ของบล็อกอื่น ๆ ด้วย Link List"
    นอกจากการสร้างลิงก์ให้กับข้อความบางส่วนในบทความแล้ว เราสามารถเพิ่ม Link List ซึ่งเป็น Gadget หนึ่งให้กับบล็อกของเราได้ ซึ่ง Link List ก็คือ ส่วนใช้สำหรับแสดงลิงก์ที่เรากำหนดลงไปทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นลิงก์ที่เชื่อมโยงไปยังบล็อกหรือเว็บไซต์อื่น ๆ หรือลิงก์ของบทความในบล็อกของเราเอง
    ส่วนใหญ่ Link List จะเป็นตัวช่วยโฆษณาบล็อกอื่น ๆ ที่เป็นมิตรกันกับเรา เช่น การใส่ลิงก์ของบล็อกเพื่อน ๆ ไว้ใน Link List ของบล็อกเรา ส่วนเพื่อน ๆ ก็ใส่ลิงก์บล็อกของเราไว้ใน Link List ของเขาเช่นเดียวกัน ซึ่งจะช่วยให้คนอื่น ๆ สามารถเข้ามาดูบทความในบล็อกของเราได้มากขึ้น
    วิธีการเพิ่ม Link List ทำได้ดังนี้ครับ

     1. คลิกแท็บ Layout เลือก Page Elements ตามด้วยคลิกคำสั่ง Add a Gaget เช่นเดิม จากนั้นคลิกปุ่ม + ด้านหลังรายการ Link List ดังภาพ

    2. หลังเลือกตามภาพ 1 และ 2 จะปรากฎหน้าต่างขึ้นมา ให้กรอกรายละเอียดต่าง ๆ ดังนี้

         1) Title ตั้งชื่อหัวข้อลิงก์

         2) จำนวนลิงก์ที่ต้องการให้แสดง (ถ้าว่างไว้จะแสดงลิงก์ทั้งหมด)

         3) กำหนดรูปแบบการเรียงลิงก์

         4) กรอก URL ของบล็อกหรือเว็บไซต์ที่ต้องการเพิ่มลงใน Link List

         5) กรอกชื่อของบล็อกหรือเว็บไซต์นั้นลงไป...เมื่อกรอกครบทุกอย่างแล้ว ก็ให้คลิก ADD LINKS เพื่อเพิ่มลิงก์ใหม่ ๆ ลงไปตามต้องการ

         6) จากนั้นก็คลิก save เพื่อบันทึกการตั้งค่าซะ

         ..คราวนี้หน้าตาบล็อกของเราก็จะ Link List หรือรายชื่อบล็อกที่เชื่อมไปหาปรากฎขึ้นมาให้เห็น..ตอนนี้ก็จบเท่านี้ก่อนนะ จะบอกให้...เอาไว้วันต่อ ๆ ไปค่อยว่ากันอีก..วันนี้เพราะหลานสาวแท้ ๆ ต้องทำให้ผมต้องรีบปั่นต้นฉบับ ฮา..

เชื่อมบทความด้วยลิงค์

การเชื่อมโยงบทความด้วยลิงค์

    การสร้างบล็อกที่ดีต้องกำหนดให้มีการเชื่อมโยงเนื้อหาด้วย ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาภายในบล็อกเราเองหรือบล็อกหรือเว็บไซต์อื่น ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้อ่าน อีกทั้งทำให้บล็อกของเรามี Ranking ดีขึ้นด้วย
     ส่วนวิธีการสร้างลิงค์ในบทความที่เราเขียนขึ้นง่าย ๆ ด้วยวิธีการดังนี้

     1. ขั้นตอนการเขียนบทความ ให้แดร็กเมาส์เลือกข้อความที่ต้องการสร้างเป็นลิงค์ (ทำแถบดำบนอักษรที่ต้องการทำเป็นลิงค์) เช่น กำหนดข้อความเป็นลิงค์

     2. คลิกไอคอน (ลิงค์หรือLink) บนทูลบาร์

     3. เมื่อหน้าต่างย่อย Hyperlink ปรากฎขึ้นมา ให้กรอก Url ที่ต้องการลิงค์ออกไปถึงในช่อง Url นั้น

     4. ต่อมาคลิกเผยแพร่บทความ ข้อความที่เลือกจะกลายเป็นลิงค์ เมื่อผู้อ่านคลิกที่อักษรลิงค์ ก็จะนำผู้อ่านไปยังลิงค์ที่กำหนดในทันทีทันใดครับ..เข้าใจบ่นี่..โอ้ยหนอ..

แทรกภาพลงในบทความ

การแทรกภาพลงในบทความบล็อก
การจัดวางภาพลงในบทความอย่างเหมาะสม มีส่วนสำคัญช่วยให้บทความน่าอ่านมากขึ้น การพิจารณานำภาพประกอบมาใส่ลงในบทความ จึงไม่ควรมองข้ามไป แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงภาพที่มีขนาดไฟล์ภาพขนาดใหญ่เกินไป หรือใส่ลงไปมากเกินไป เพราะจะทำให้หน้าบล็อกแสดงขึ้นมาช้า สำหรับการแทรกไฟล์ภาพลงในบล็อก ทำได้ตามขั้นตอนดังนี้
1. ขณะอยู่ที่ขั้นตอนการเขียนบทความ ให้กดปุ่ม Add image
2. คลิกปุ่ม Browse..ใต้หัวข้อ Add an image from your computer แล้วเข้าไปเลือกภาพในคอมพิวเตอร์ของเรา หรือดึงภาพจากเว็บไซต์ก็ได้มาแสดง แต่ต้องกรอก Url ของภาพนั้นในช่อง Url ใต้หัวข้อ Or add an image from the web หากต้องการแทรกมากกว่า 1 ภาพ ให้คลิกคำสั่ง Add another image
3. คลิกเลือกรูปแบบเลย์เอาต์หรือการจัดวางภาพใต้หัวข้อ Choose a layout เช่น วางไว้ด้านซ้าย ด้านขวา หรือกึ่งกลางของข้อความ ก็ได้
4. เลือกขนาดการแสดงผลไฟล์ภาพ จะเลือกขนาดเล็ก ปานกลาง ใหญ่ ก็แล้วแต่เรา
5. คลิดปุ่ม Upload image
6. เมื่อภาพถูกอัพโหลดเรียบร้อยแล้ว จะปรากฎข้อความ your image has been added. ให้คลิกปุ่ม Done ได้เลย
เท่านี้ภาพก็จะถูกแทรกลงในบทความตามต้องการแล้ว..เดี๋ยวว่ากันต่อวันหน้าเนาะ...

การเขียนบทความให้น่าอ่าน

การเขียนบทความบล็อก
บทความเป็นสิ่งสำคัญสำหรับบล็อก จึงควรมีการวางแผนในการเขียน เพื่อดึงดูดคนอ่าน เทคนิคการเขียนบทความมีดังนี้ครับ..
1. เขียนบทความซึ่งมีเนื้อหาในทิศทางเดียวกัน จึงควรมีเนื้อหาสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน ไม่สร้างความสับสนให้กับผู้อ่าน
2. หมั่นอัปเดตเนื้อหาบทความในบล็อกเสมอ ๆ เช่น ทุก ๆ วัน หรือทุก 2 - 3 วัน เป็นต้น
3. เทคนิคเขียนบทความแบบตั้งเป็นคำถาม
4. จัดเรียงลำดับเนื้อหาอย่างเป็นระเบียบ
5. บทความไม่ยาวจนเกินไป
6. คำนึงถึงประโยชน์ผู้อ่านจะได้รับ
7. หมั่นปรับแก้ไขบทความที่เขียนไปแล้ว เพื่อความใหม่ ทันสมัย
8. ภาษาที่ใช้เป็นแบบกันเอง
9. ใช้อักษรที่อ่านง่ายและสวยงาม
ทั้งหมดที่กล่าวมา เป็นเพียงแบบกว้าง ๆ เท่านั้นนะครับ ท่านอาจประยุกต์ใช้ได้ตามความเหมาะสม... วันนี้เอาไว้แค่เนี้ยก่อนนะครับ
วันพรุ่งค่อยว่าต่อเรื่องต่อ ๆ ไปครับ...นายพล ครับ

การเขียนบทความของ Blog

การเขียนบทความของ Blog

เมื่อเราสร้างบล็อกของเราเสร็จแล้ว ก็ถึงขั้นตอนการเขียนบทความของ Blog ลงไปในบล็อกละ เพื่อคนอื่น ๆ จะได้มาอ่านบทความของเราไง...

มีขั้นตอนง่าย ๆ ต่อไปนี้

1. เปิดเข้าไปสู่เว็บไซต์ http://www.blogger.com แล้ว Sign in เข้าระบบด้วยยูเซอร์เนม และพาสเวิร์ดของเรา จากนั้นคลิก NEW POST เลย

2. ตั้งชื่อบทความลงในช่อง Title จะตั้งให้เพราะพริ้งอย่างไรก็เชิญเลย แต่อย่าลืม เนื้อหาบทความต้องสัมพันธ์กันด้วยนะ มิใช่ ชื่ออย่าง เนื้อหาอีกอย่าง อย่างนี้อย่างทำ...

3. จากนั้นเริ่มปั่นบทความลงไปในหน้ากระดาษด้านล่างตามต้องการเลย เรื่องการเขียนเนี่ย ก็แล้วแต่ความสามารถใครมัน ละกัน

4. เมื่อเขียนจนพอใจแล้ว ก็คลิก Publish Post เพื่อเผยแพร่บทความเลย ระบบจะแสดงบทความของเราหน้าบล็อกทันที

แค่นี้...ง่ายเปล่าครับ

...หากต้องการแก้ไขบทความที่โพสแล้ว ก็ย่อมทำได้ เพียงแต่เราคลิกที่ Posting >Edit Post จากนั้นก็คลิก Edit หน้าบทความต้องการแก้ไข ก็ทำการแก้ไขใหม่ได้เลย...

จบการเขียนบทความครับ....เดี๋ยววันพรุ่งต่อเรื่อง “เทคนิคการเขียนบทความให้น่าอ่าน” ครับ

Lesson 2 : การสร้าง Blog

Lesson 2 : การสร้าง Blog

1. การสร้างบล็อกด้วย Blogger.com

การสร้างบล็อกด้วย Blogger.com มี 3 ขั้นตอน คือ

1. ขั้นตอนสร้างบัญชีผู้ใช้ หรือยูเซอร์แอ๊กเคาต์ (User Account) มีวิธีการดังนี้

- เปิดโปรแกรมเว็บบราเซอร์ขึ้นมา (Internet Explorer) เข้าไปที่เว็บไซต์ http://www.blogger.com

- คลิกปุ่ม Create a blog กรอกรายละเอียดหรือข้อมูลต่าง ๆ เพื่อลงทะเบียน ซึ่งก็ไม่ยากอะไรมากมายนักนะครับ หลังกรอกเสร็จก็คลิกปุ่ม Continue

2. การตั้งชื่อบล็อก และการกำหนด URL ของบล็อก

- blog title ตั้งชื่อให้บล็อกของเรา เช่น blog & Baht

- Blog address (Url) กำหนดชื่อ Url ให้บล็อก เช่น http://blog-baht.blogspot.com เมื่อกำหนดแล้วให้คลิกคำสั่ง Check Availability ให้ระบบตรวจสอบว่า Url ที่เราต้องการใช้ มีคนอื่นใช้หรือยัง ซ้ำกับใครหรือไม่

หากไม่ซ้ำกับคนอื่น ๆ ก็เป็นใช้ได้

3. การเลือกเทมเพลต (Choose a template)

- เทมเพลตใน blogger.com มีให้เลือกมากแบบ จะเลือกแบบใดก็คลิกเลือกได้ตามใจ จากนั้นคลิกปุ่ม Continue (การเลือกเทมเพลต เราสามารถเปลี่ยนได้ในภายหลัง)

จากนั้นระบบจะแจ้งให้ทราบว่า บล็อกของเราถูกสร้างขึ้นแล้ว เราสามารถคลิกปุ่ม Start Blogging เพื่่อเริ่มต้นเขียนบล็อกได้แล้วครับ.....เดี๋ยวมาต่อการเขียนบทความในวันพรุ่ง..นะครับ

ผู้ให้บริการ Blog

ผู้ให้บริการ Blog
ผู้ให้บริการบล็อกฟรี มีทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ต่างประเทศเช่น
Blogger.com (http://www.blogger.com) ซึ่งเป็นบล็อกจากบริษัท google ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
wordPress (http://www.wordpress.com)
สำหรับในประเทศไทยของเรา เช่น
Exteen.com (http://www.exteen.com)
BlogGang.com (http://www.bloggang.com)
GotoKnow (http://www.gotoknow.com) เป็นต้น

การหารายได้จาก Blog

สรุปวิธีหารายได้จากบล็อกรูปแบบต่าง ๆ ดังนี้

1. สร้างรายได้จากการขายบล็อก เพราะบล็อกที่ดีก็ย่อมมีคนต้องการซื้อไปเพื่อทำประโยชน์ในทางใด ๆ เช่น ขายสินค้า หรือประชาสัมพันธ์หน่วย เป็นต้น

2. สร้างรายได้จากการบริจาค เมื่อบล็อกที่สร้างขึ้นมีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ อาจนำไปขอรับบริจาคจากผู้อ่านได้

3. สร้างรายได้จากแบนเนอร์โฆษณา เมื่อได้รับความนิยม ก็สามารถนำโฆษณาจากผู้สนใจลงโฆษณาต่าง ๆ ได้

4. สร้างรายได้จาก Affiliate Program โดยการเป็นผู้แทนขายสินค้าต่าง ๆ เมื่อจำหน่ายสินค้าได้ เจ้าของบล็อกก็จะได้รับค่าคอมมิสชั่นจากการขายนั่นเอง เช่น Amazon.com หรือรายได้จาก Google Adsense เป็นต้น

เตรียมตัวก่อนสร้าง Blog

เตรียมตัวก่อนสร้าง Blog
ก่อนสร้างบล็อก ควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ?
1. กำหนดทิศทางของบล็อก บล็อกที่จะสร้างควรเกี่ยวกับเรื่องไร ควรเลือกที่ชอบ หรือมีความถนัดในเรื่องที่เราจะเขียน
2. เลือกชื่อบล็อกให้เหมาะสม ก่อนการสมัครควรพิจารณาชื่อของบล็อกเตรียมไว้ก่อน เป็นชื่อที่สั้น จำง่าย และเหมาะสมกับเนื้อหาในบล็อก
3. จัดเตรียมเนื้อหา โดยรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ให้มากพอ เมื่อเขียนบทความต้องกระชับ และมีความใหม่ทันสมัยเป็นที่น่าสนใจของผู้คน
4. เลือกผู้ให้บริการบล็อก ควรเลือกผู้ให้บริการที่ได้รับความนิยม เช่น Blogger.com เป็นต้น

จุดเด่น/ข้อดีของ Blog (บล็อก)

จุดเด่นของ Blog (บล็อก) ดังนี้
1) Blog (บล็อก) อัปเดตข้อมูลหรือเนื้อหาได้ง่ายและรวดเร็ว เราสามารถนำเสนอบทความใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็วและทันสมัย ทันต่อสถานการณ์ ทำให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลข่าวสารรวดเร็ว
2) Blog (บล็อก) ผู้ชมสามารถแสดงความคิดเห็นได้ ผู้ชมบล็อกทุกคนสามารถจะแสดงคิดเห็นจากบทความที่อ่านได้
3) Blog (บล็อก) ใช้งานง่าย ถึงแม้คนจะไม่เก่งคอมพิวเตอร์ก็สามารถสร้างบล็อกได้โดยสะดวก การจัดการบล็อกออกแบบมาให้ใช้งานได้สะดวก ซึ่งสามารถปรับแต่งรูปแบบต่าง ๆ ได้
4) Blog (บล็อก) สามารถสร้างลิงค์เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์อื่น ๆ หรือบล็อกอื่น ๆ ได้ง่าย
5) Blog มีให้บริการฟรี ๆ ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ โดยเฉพาะ blogger.com ของบริษัท Google นี้

Lesson 1: Blog (บล็อก) คือ อะไร ?

Blog (บล็อก) คือ อะไร ?
Blog (บล็อก) ก็คือ แหล่งบันทึกข้อมูลออนไลน์ที่ใคร ๆ ก็สามารถแบ่งปันข้อมูลต่าง ๆ ในทุก ๆ เรื่องให้กันและกันได้ รวมทั้งเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน และยังสามารถเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวได้รวดเร็ว ทันทีที่เราต้องการ ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่า Blog (บล็อก) เป็นแหล่งรวมเนื้อหาอันทันสมัยและทันต่อเหตุการณ์เป็นที่สุด จึงเป็นที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งเนื้อหาก็แล้วแต่เจ้าของบล็อกจะสร้างสรรค์อย่างไร ตามความพอใจของเรา นั่นเอง เพราะฉะนั้นแล้ว บล็อกจึงถือเป็นสื่อชนิดหนึ่งที่นำเสนอข้อมูลในด้านต่าง ๆ สู่สังคมได้อย่างรวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ จึงกลายเครือข่ายสังคมออนไลน์